วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ประวัติพันธุ์หมาบางแก้ว

ประวัติพันธุ์หมาบางแก้ว

          หมาบางแก้วมีชื่อเสียงมานานแล้วก็จริง แต่ก็หาผู้ที่รู้เกี่ยวกับความเป็นมาของประวัติพันธุ์ไม่ได้ เพียงแต่บอกอย่างลอยๆว่าเป็นลูกผสมระหว่างหมาป่ากับหมาไทย และเท่าที่ผู้ใกล้ชิดสังเกตดูรูปร่างและอุปนิสัยแล้ว พบว่าหมาบางแก้วเกิดจากหมา พันธุ์ คือ พันธุ์ไทย พันธุ์จิ้งจอก และพันธุ์หมาป่า คือ มีขนยาวปานกลาง ปากแหลม หางเป็นพวง ซึ่งเป็นลักษณะของหมา จิ้งจอก กะโหลกรูปสามเหลี่ยม ใบหูตั้งสั้นปลายแหลม แบนออกข้างๆ โคนหูห่างกันมาก เป็นลักษณะของหมาป่า นายมา เกตุนิล อายุ 92 ปี (เกิดปี พ.ศ. 2444) ได้เล่าถึงสภาพของบ้านบางแก้วในอดีตและประวัติพันธุ์หมาบางแก้วว่า บ้านบางแก้ว ตำบลท่านางาม (ชื่อเดิมตำบลบางแก้ว) อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ในอดีตนั้นบ้านบางแก้วอุดมไปด้วยป่าพง ป่าระกำ ป่าไผ่ และต้นไม้ชนิดอื่นๆ เนืองแน่นอยู่ทั่วไป จากสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์จึงเหมาะแก่การอยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด แต่ทว่าในปัจจุบันสภาพของป่าถูกบุกรุกและถูกทำลายไปมากจนไม่หลงเหลือให้เห็นอีกเลย พื้นที่บริเวณบ้านบางแก้วมีลักษณะเป็นที่ราบลุ่ม ในฤดูฝนมีน้ำไหลหลากและน้ำท่วมอยู่เป็นเวลานาน ดังนั้นจึงทำการเพาะปลูกพืชผลไม่ได้ สภาพภูมิประเทศมีความกันดาร และเต็มไปด้วยอันตรายต่างๆ บ้านบางแก้ว จึงเป็นสถานที่มีบุคคลมักหลบหนีมาซ่อนตัว หรือเป็นที่หลบภัยของผู้ที่กระทำความผิดกฎหมาย กลุ่มบุคคลดังกล่าวจึงนับได้ว่าเป็นคนรุ่นแรกที่เริ่มบุกเบิกเข้ามาตั้งถิ่นฐานในบ้านบางแก้ว ต่อมามีการอพยพย้ายถิ่นฐานของผู้คนจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นครปฐม สุพรรณบุรี และอ่างทอง เดินทางเข้ามาอยู่ในหมู่บ้าน โดยสร้างเรือนแพอาศัยอยู่ในคลองบางแก้ว ซึ่งเชื่อมติดต่อกับแม่น้ำยม อาชีพหลักที่ทำกันเป็นล่ำเป็นสัน คือ การจับปลาในคลองบางแก้ว ซึ่งมีชุกชุมมาก เมื่อเริ่มมีเครื่องยนต์กลไกเข้ามาใช้บ้างแล้ว การเดินทางของชาวบางแก้ว เพื่อเข้ามาในเมืองพิษณุโลกทำได้ ทาง ถ้าเป็นฤดูแล้ง จะเดินด้วยเท้า เกวียนหรือขี่ม้า ผ่านทางทุ่งทะเลแก้วแล้วออกทางวัดตาลมาที่ถนนสาย หรือถนนสิงห์วัฒน์ในปัจจุบัน ถ้าเป็นฤดูฝนมีน้ำท่วมมากต้องพายเรือ หรือแจวเรือไปตามคลองบางแก้ว แล้วขึ้นที่หนองแกแล ท่าเรือบางระกำ เพื่อขึ้นรถโดยสารเข้ามาในตัวเมืองพิษณุโลก  เมื่อชุมชนมีความเจริญมากขึ้นตามลำดับ ชาวบ้านได้ช่วยกันสร้างวัดบางแก้วขึ้น เพื่อเป็นศูนย์รวมทางจิตใจและทำนุบำรุงพุทธศาสนาให้เจริญงอกงาม หลวงปู่มาก เมธารี เจ้าอาวาสองค์ที่ ของวัดบางแก้ว นอกจากเป็นนักเทศน์ที่มีชื่อเสียง มีความรู้แตกฉานทั้งด้านภาษาบาลี และภาษาขอม ท่านยังมีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านคาถาอาคมและทางไสยศาสตร์ เป็นที่ยอมรับกันว่าท่านเป็นพระที่ศักดิ์สิทธิ์มาก เป็นพระที่มีใจเมตตากรุณา ท่านได้เลี้ยวสัตว์ไว้หลายชนิด ทั้งไก่แจ้ นกเขา แมว ม้า และสุนัข ต่อมามีนักเลงคนหนึ่งชื่อตานิ่ม อาศัยอยู่ทางตอนเหนือของวัดบางแก้ว ตานิ่มได้ถวายสุนัขตัวเมียตัวหนึ่งให้หลวงปู่มาก สุนัขตัวนี้มีลักษณะตัวใหญ่ สีดำ และมีขนยาว เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์ได้ไปผสมพันธุ์กับสุนัขจิ้งจอก หรือสุนัขป่า มีลูกออกมาเป็นสีดำปนกับสีประดู่ ตัวใหญ่ และขนยาว ในช่วงนั้นหลวงปู่มากมีสุนัขรวมเป็น ตัว ต่อมาได้มีการอพยพครั้งใหญ่ของชาวบ้านจากจังหวัดนครปฐม สุพรรณบุรี และอ่างทอง เดินทางเข้ามาอาศัยอยู่ที่บ้านบางแก้วและเมื่อปี พ.ศ. 2469 พวกลาวโซ่งได้อพยพครอบครัวต้อนควายมาด้วยหลายสิบฝูง และมีสุนัขติดตามมาด้วยเป็นจำนวนมาก พวกเขาตั้งหลักถิ่นฐานอยู่ที่บ้านห้วยชัน ซึ่งห่างจากบ้านบางแก้วประมาณ กิโลเมตร ชาวบ้านจากห้วยชัน กับชาวบ้านบางแก้วมีการติดต่อค้าขายกัน เมื่อชาวบ้านจากห้วยชันเดินทางมาบ้านบางแก้วก็มีสุนัขติดตามมาด้วย ดังนั้นสุนัขจากหมู่บ้านห้วยชันจึงได้มีโอกาสผสมพันธุ์กับสุนัขของหลวงปู่มาก พอลูกออกมา ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตามเรือนแพก็มาขอลูกสุนัขของหลวงปู่มากไปเลี้ยงไว้บนแพ ต่อมาเมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์ เป็นช่วงที่น้ำไหลหลากท่วมพื้นดินเป็นแรมเดือน สุนัขจากท้องถิ่นอื่นๆ ก็ไม่มีโอกาสเข้าผสมพันธุ์ด้วย เมื่อสุนัขในพื้นที่บางแก้วผสมพันธุ์กันเองภายในเหล่าเดียวกันหลายชั่วอายุ การผสมพันธุ์ก็ไม่ได้มีเกณฑ์อะไร เป็นไปอย่างธรรมชาติหลายสิบปี จึงเกิดลูกพันธุ์หมาบางแก้วแท้ที่มีลักษณะเด่นเฉพาะตัว ดังนั้นทั้งสภาพจากธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจึงเป็นปัจจัยสำคัญสนับสนุนให้เกิดสายเลือดของสุนัขบางแก้วขึ้น
ลักษณะเด่นที่หมาบางแก้วได้รับการถ่ายทอดจะมาจาก สายพันธุ์นี้เป็นหลัก กล่าวคือ
1.หมาจิ้งจอก (Canis Aureus) มีอยู่ด้วยกัน ชนิด
หมาจิ้งจอกทองหรือหมาทอง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า คานิส ออรีอัส (Canis Aureus) มีลักษณะคล้ายหมาป่าวูล์ฟ ขนาดเล็กมีอยู่อย่างกระจัดกระจายตั้งแต่อัฟริกาใต้ไปจนถึงอัฟริกาเหนือ มีขนสีน้ำตาลปนเหลือง ส่วนหลังและหางจะแซมด้วยสีดำ
หมาจิ้กจอกหลังดำ (Black-backed) หรือหลังอานมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า คานิส ไซเมนซิส (Canis Mesomelas) พบในอัฟริกาตอนกลาง อัฟริกาใต้ ที่หลังมีขนยาวสีดำปนขาวแผ่กระจายเต็มหลังไปจนถึงบริเวณหางคล้ายกับอานม้าและใบหูใหญ่
หมาจิ้งจอกหางลาย มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า คานิสไซเมนซิส (Canis Adustus) หมาจิ้งจอกพันธุ์นี้มีขนสีเทาและมีขนสีดำพาดเป็นทางด้านข้างลำตัว ที่ปลายหางจะมีสีขาว พบในอัฟริกาเขตร้อน
หมาจิ้งจอกไซเมี่ยน แจ็คกัล (Simian jackal) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า คานิส ไซเมนซิส (Canis Simensis) พบ ในเขตที่ราบสูงเอธิโอเปีย มีรูปร่างและขนาดอยู่ระหว่างหมาจิ้งจอกฟ๊อกซ์ (Fox) และหมาป่าวูล์ฟ (Wolf) แต่ดูแล้วจะเหมือนหมาจิ้งจอกฟ๊อกซ์ (Fox) มากกว่า ลักษณะที่เด่นๆ คือ หูตั้ง ใบหูใหญ่ ปลายหูแหลม ลำตัวค่อนข้างยาว ขนตามลำตัวค่อนข้างแดง ส่วนขนที่คอสีขาวและมีแนวขนสีแดงแก่พาดรอบคอ ขายาวขนที่บริเวณปลายขาจะมีสีขาว หางเป็นพวง โคนหางขาวปลายโคนหางประมาณ 100 ซม. (40 นิ้ว) หรือ เมตร หางยาว 30 ซม. (10 นิ้ว) น้ำหนัก 10 ก.ก. (22 ปอนด์) ตามธรรมชาติจะชอบอยู่เป็นคู่หรืออยู่ลำพังตัวเดียว หมาจิ้งจอกพันธุ์นี้นับว่าเป็นหมาที่มีขนาดใหญ่ แต่ชนิดที่อยู่ในแถบเอเชียและที่พบในประเทศไทยนั้นเป็นชนิดที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า คานิส ออริอัส อินดิคัส (Canis Aureus Indicus)   ขนของหมาจิ้งจอกพันธุ์นี้จะมีขนสีน้ำตาลปนเทา มีลายกระดำกระด่างเปรอะๆไม่ไช่สีพื้นแดงสนิมเหมือนกับอย่างขนของหมาไนนอกจากนั้นแล้วยังมีขนยาวปกคลุมรอบคอเป็นแผงใหญ่ขนบริเวรนี้ปลายขนจะมีสีดำขนตามลำตัวจะมีลักษณะขนสองชั้นแผ่ชี้ปกคลุมตั้งแต่ท้ายทอยลงมาจนถึงกลางหลังเรื่อยจนไปถึงโคนหางมีลักษณะคล้ายกับอานม้ามากกว่าขนที่กลางหลังของหมาไทยพันธุ์หลังอานเสียอีกเพราะขนที่หลังของหมาหลังอานเป็นขนชนิดที่ย้อนกลับคล้ายๆ กับขวัญ หางของหมาจิ้งจอกจะสั้นกว่าหางของหมาไนและขนที่หางจะมีสีดำเพียงแค่ ใน 3ส่วนหมาไนจะมีขนที่หางจะเป็นสีดำ ความสูงประมาณ 40 ซม. น้ำหนักตัวประมาณ 7-14 ก.ก. (15-31 ปอนด์) ความยาวของลำตัววัดจากหัวหัวถึงปลายหางหางประมาณ 60-75 ซม. (24-30 นิ้ว) ความยาวของหางวัดจากหัวถึงปลายหางประมาณ23-25 ซม.(9.2-14 นิ้ว) กะโหลกศีรษะอยู่ในจำพวกสกุลคานิส ลักษณะของจมูกจะยาวแต่จมูกไม่ดำ ลำตัวกลมและแข็งแรง สันกลางต่ำ โค้งกว้างแตกต่างกับหมาไนซึ่งมีจมูกสั้นและจมูกสีดำ หน้าผากของหมาจิ้งจอกค่อนข้างจะแบนเล็กน้อยหน้าแหลม หูตั้งป้องไปข้างหน้า
2.หมาไน (Asian Wild Dog) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cuon Alpinus ชื่อเหมือนหรือพ้องคือ Canis Javanicus หรือ Canis Rutilandบางครั้งก้อเรียกหมาไนว่า"หมาแดง" (Red dog) มีลักษณะแตกต่างกว่าหมาจิ้งจอกคือ มีสีแดงสนิม (Red red) ตลอดทั้งตัว ไม่มีแผงคอเหมือนหมาจิ้งจอก หางสีดำ ความยาวของหาง 40-50 ซม. (16-20 นิ้ว) น้ำหนักตัว 14-21 ก.ก. จึงมีลำตัวยาวเพรียวกว่าหมาจิ้งอจกและท้องไม่คอดกิ่วเช่นหมาไทยพื้นบ้าน หมาไนตัวใหญ่กว่าหมาจิ้งจอก มีสีเดียวกันตลอดทั้งตัว (มากกว่าหมาจิ้งจอก) หางยาวและมีสีเข้มกว่า จมูกเข้มกว่าและสั้นกว่า ภายในหูมีขนขาวละเอียดอ่อนปกคลุม ปลายหูกลมมน ไม่แหละเหมือนหมาจิ้งจอก มีขนตามลำตัวสีแดงสนิม ขนยาวกว่าหมาจิ้งจอก ขนทีแผงคอไม่มี (หมาจิ้งจอกมี) เท้าและขนที่หางสีดำ ช่วงฤดูหนาวขนจะหนาขึ้น ลูกที่เกิดใหม่จะสีดำคล้ำ เมื่อโตจะเปลี่ยนเป็นสีสีแดงสนิมกะโหลกศีรษะคล้ายกับสุนัขจิ้งจอก แต่ใหญ่กว่า จมูกกว้างและหน้าแบนกว่า เบ้าตาต่ำกว่า รูปร่างฐานเบ้าตาสั้นกว่าและทื่อค่อนไปทางข้างหน้าลักษณะฟันไม่เหมือนกัน ไม่มีกรามที่สามด้านล่าง กรามล่างอันแรกมีเพียงเพียงเขี้ยวเดียว (แต่ในหมาจิ้งจอกมีสองเขี้ยว) ปากมอมสีน้ำตาลเข้มหรืออาจมีสีขาวปน หางเป็นพวงห้อยลงพื้น ส่วนมากจะหลบซ่อนตัวอยู่ในที่ร่มหรือโพลงดินตื้นๆ เห่าเสียงธรรมดาถี่ๆ แต่เมื่อตกใจจะร้องเสียงแหลม หมาไนสามารถกระโดดได้ไกล 3-3.5 เมตรเลยทีเดียว เวลาวิ่งกระโดดไกลถึง 5-6 เมตร และสูง3-3.5 เมตร เวลาล่าเหยื่อที่เป็นสัตว์ใหญ่กว่าจะรวมตัวกันเป็นฝูง 6-8 ตัว จนถึง 20 ตัว หายเหยื่อได้โดยการดมกลิ่น และสะกดรอยตามไปจนเห็นเหยื่อ จากนั้นจะไล่เหยื่อไปจนเหนื่อยอ่อนและจนมุม
3.หมาพื้นบ้านไทย (Thai Dog)
ขนตามลำตัวสั้นเกรียน ละเอียดเป็นเงา หูตั้ง ปลายหูแหลม แข้งขาเล็กเรียวคล้ายขาเก้ง อุ้งเท้าเล็ก ลำตัวค่อนข้างยาวเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหางมีหลายรูปแบบคือหางกระรอก หางงอม้วนเป็นก้นหอยหรือขนมกง

แหล่งข้อมูล  : หนังสือหมาบางแก้ว

เรื่องเกี่ยวกับการเลี้ยงสุนัข บางแก้ว

หมาบางแก้ว สุนัขพันธุ์บางแก้ว

หมาบางแก้ว สุนัขพันธุ์บางแก้ว

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          หมาบางแก้ว สุนัขไทย พันธุ์เดียวที่มีขนยาวสองชั้น หางเป็นพวง มีขน ขาหน้าคล้ายขนขาสิงห์แผงรอบคอคล้ายสิงโต จัดเป็นสุนัขที่มีลักษณะสวย ฉลาด ซื่อสัตย์ รักเจ้าของ เหมาะเลี้ยงเป็นเพื่อน เฝ้าบ้าน เลี้ยงง่าย มีความกล้าหาญ ที่สำคัญคือ หมาบางแก้ว ค่อนข้างดุ ฝึกใช้งานอารักขาได้ดี เป็นนักสู้แม้ว่าสุนัขตัวอื่นจะมีขนาดใหญ่กว่าก็ตาม บางแก้ว ก็จะสู้ไม่ถอยเชียวล่ะ

          ต้นกำเนิดของ สุนัขพันธุ์บางแก้ว อยู่ที่ วัดบางแก้ว ต.บางแก้ว อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก สุนัขพันธุ์บางแก้ว เป็นสายเลือดผสมระหว่าง สุนัขพันธุ์ไทยพื้นบ้าน กับสุนัขป่า เนื่องจากภูมิประเทศแถบ ต.บางแก้ว  สมัยก่อนค่อนข้างมีลักษณะเป็นป่ามีต้นไม้หนาแน่น เป็นที่อาศัยของพวกสุนัขจิ้งจอก และสุนัขไน หรือที่เรียกว่า หมาไน ทำให้เกิดผสมพันธุ์กันระหว่าง สุนัข ทั้ง 3 สายพันธุ์ จนในที่สุดก็ได้เป็น"สุนัขพันธุ์บางแก้ว" ที่มีลักษณะหลายสีเหมือนสุนัขบ้าน มีขนยาวสองชั้นเหมือนสุนัขป่า หูป้องไปข้างหน้าเหมือนจิ้งจอก ดุ รักถิ่นฐานเหมือนสุนัขบ้าน และกล้าหาญเหมือนสุนัขไน

          ต่อมา หมาบางแก้ว จึงถูกนำมาเลี้ยงทั่วไปตามบ้าน เนื่องจากมีลักษณะเฉพาะ สวยงาม เลี้ยงง่าย ฝึกง่าย จึงทำให้ สุนัข บางแก้ว นี้กลายเป็นที่นิยมเลี้ยงกันมากใน จ.พิษณุโลก ตลอดจนถึงปัจจุบัน ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า สุนัขพันธุ์บางแก้ว เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของจังหวัดพิษณุโลก อีกทั้งยังสร้างชื่อเสียงและทำรายได้ระดับประเทศ

หมาบางแก้ว สุนัขพันธุ์บางแก้ว


 ลักษณะสายพันธุ์ของ สุนัขพันธุ์บางแก้ว
          สุนัขพันธุ์บางแก้ว จะมีขนาดเท่าสุนัขไทย หรือเล็กกว่าเล็กน้อย ขนปุยยาว สง่างาม ว่องไว แข็งแรง เวลายืนมักเชิดหน้าและโก่งคอคล้ายม้า หัวกะโหลกใหญ่ ปากยาวแหลม หูเล็กสั้นตั้งป้องไปข้างหน้า ลักษณะเด่นของ สุนัข บางแก้ว คือ ภายในหูจะมีขนปลายปิดรูหูคล้ายหมาจิ้งจอก ตาเล็กกลมรี พื้นสีตาเป็นสีเหลืองทองคล้ำ ขณะโกรธจะขึ้นแววสีฟ้าใส หรือที่เรียกว่า ตาเขียว จมูกสีดำ ฟันซี่ เล็กขาวคม หางต้องเป็นพวงสืบทอดมาจากสุนัขจิ้งจอก ตั้งโค้งไปข้างหน้า หางพุ่งไปด้านหลังแล้วโค้งตั้งขึ้น และเป็นพวงลาดแบบแทงดินอย่างหางม้า

          ส่วนเสียงเห่าของ สุนัขพันธุ์บางแก้ว จะแหลมเล็กกว่าสุนัขไทย เวลาวิ่งจะซอยเท้าถี่ สีของ สุนัข บางแก้ว ที่นิยม คือ สีขาวปลอด ขาวน้ำตาล ขาวดำ ทั้งนี้ สุนัขพันธุ์บางแก้ว ขึ้นชื่อมากเรื่องความดุ มีความซื่อสัตย์ต่อเจ้าของ รักและหวงเจ้าของ ไม่ชอบคนแปลกหน้า มีความสามารถในการดมกลิ่นเป็นเลิศ จำเสียงได้แม่นยำ กินอาหารง่าย มีความกล้าหาญ กล้าที่จะสู้กับสุนัขที่ตัวโตกว่า 

          นอกจากนี้ สุนัขพันธุ์บางแก้ว ยังมีประสาทตื่นตัวอยู่เสมอแม้นอนหลับ บางแก้ว เป็นสุนัขที่ชอบเล่นน้ำ เมื่อหมอบข้อศอกจะแนบกันพื้นและเท้าหลังจะแบออกทั้งสองข้าง ก่อนจะกินน้ำในอ่าง บางแก้ว ชอบเอาเท้าหน้าข้างหนึ่งข้างใดจุ่มลงไปในอ่างก่อน เวลาขู่จะเหยียดขาหน้าพุ่มไปข้างหน้า แล้วผงกหัวและแผงขนหลังตั้งขึ้นพร้อมกับส่งเสียงขู่  สุนัขพันธุ์บางแก้ว ชอบกินเนื้อสัตว์และปลา เนื่องจากหมู่บ้านบางแก้ว อาชีพหลักของชาวบ้านแถบนั้นคือ จับปลา ค้าปลาน้ำจืด และเลี้ยง สุนัขพันธุ์บางแก้ว ไว้บนแพ อาหารที่ได้จึงหลีกไม่พ้นปลา แต่อาหารอื่นๆ ก็กินได้เช่นกัน

 วิธีเลือก สุนัขพันธุ์บางแก้ว
          เนื่องจากลูกสุนัขพันธุ์บางแก้ว มีราคาซื้อ-ขายค่อนข้างแพง เมื่อเปรียบเทียบกับลูกสุนัขต่างประเทศสายพันธุ์อื่นๆ ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ลูกสุนัขพันธุ์บางแก้ว ที่ซื้อมาควรจะมีใบเพ็ดดีกรีรับรองจากสมาคม หรือชมรมสุนัขพันธุ์บางแก้ว เท่านั้น ลูกสุนัขที่ได้มาตรฐานทุกตัวจะต้องทำวัคซีนและถ่ายพยาธิแล้ว และผู้ที่ซื้อลูกสุนัขมาเลี้ยงจะต้องทำการตกลงกับผู้ขายว่า ลูกสุนัขที่ซื้อมาเลี้ยงนั้นถ้าเป็นโรคติดมาจากร้าน ผู้ขายจะต้องรับผิดชอบ

หมาบางแก้ว สุนัขพันธุ์บางแก้ว


 อาหารและการเลี้ยงดู สุนัขพันธุ์บางแก้ว
          ผู้เลี้ยง หมาบางแก้ว อาจต้องเจอเรื่องชวนปวดหัวจากอุปนิสัยบางอย่างที่สืบเชื้อสายมาจากสุนัขป่า เช่น ด้วยความมีสัญชาตญาณนักล่า หมาบางแก้ว จะชอบจับสัตว์ต่างๆ มากัดเล่น หรือไม่ก็แอบกินเลย อันนี้ต้องระวังให้ดี โดยเฉพาะ สัตว์เลื้อยคลาน แทบทุกชนิดแม้กระทั่งงู สัตว์ปีกทุกชนิด แม้กระทั่งนกที่ว่าบินเร็วและสูงยังเสร็จมาแล้ว 

          นอกจากนั้น หมาบางแก้ว ยังชอบขุด ขุด ขุดแล้วก็ขุด เขาจะขุดทุกที่ที่เขาขุดได้ ไม่ว่าจะเป็นสนามหญ้า กระถางต้นไม้ ใต้ถุน เมื่อขุดแล้ว บางแก้ว จะนำตัวเองเข้าไปนอนอยู่ในนั้นเลย ซึ่งนิสัยพวกนี้ส่วนใหญ่จะแก้ไม่หาย ตีไปก็เสียเปล่า โดยปกติ หมาบางแก้ว จะหยุดซนก็ต่อเมื่อ อายุ 2 ปีเข้าไปแล้ว แต่หากทำให้ บางแก้ว มีวินัยตั้งแต่ยังเล็ก หมั่นฝึกไม่ว่าจะเป็นการกิน การขับถ่าย การนอน การเล่น แล้วปัญหาข้างต้นจะไม่เกิดขึ้นอีก 

          สำหรับอาหารนั้น หมาบางแก้ว เป็น สุนัข ที่กินอาหารง่าย และปริมาณการให้ก็ไม่มากด้วย เพื่อความสะดวก ก็ควรเลี้ยงอาหารสำเร็จรูปที่มีจำหน่ายอยู่ตามท้องตลาดทั่วไป หรือถ้าพอมีเวลาอาจจะให้ข้าวก็ได้ กับข้าวกินได้ทุกชนิด แต่ควรระวังเรื่องกระดูกซักหน่อย สุนัข บางแก้ว สามารถกินผักได้เกือบทุกชนิดแล้วแต่ผู้เลี้ยงจะฝึกหัด 

          ในกรณีที่ต้องการเปลี่ยนอาหาร เช่น ปกติเลี้ยงข้าว แต่ต่อมาต้องการความสะดวกจึงเปลี่ยนมาเลี้ยงอาหารเม็ดแต่สุนัขไม่ยอมกิน ในลักษณะนี้ผู้เลี้ยงต้องใจแข็งสักหน่อย อย่าตามใจเป็นอันขาด ลองทิ้งอาหารเม็ดไว้ให้เขาประมาณ 20 นาที ถ้าไม่กินก็เก็บแล้วนำมาเลี้ยงในมื้อต่อไป ทำเช่นนี้จนกว่า สุนัข จะยอมรับอาหาร 

          ด้านการทำความสะอาด การอาบน้ำ สุนัข ถือเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าไม่ระวังอาจทำให้เขาป่วยได้เพราะอุณหภูมิร่างกาย สุนัข นั้นสูงกว่าคนเรา น้ำที่เราคิดว่าเย็นไม่มากอาจจะเย็นเกินไปสำหรับสุนัข จึงควรอาบน้ำให้เขาในช่วงกลางวันขณะที่น้ำและอากาศไม่เย็นมาก หลังจากอาบเสร็จ ให้เช็ดตัวสุนัขให้แห้ง ถ้าเป็นสุนัขที่ขนยาวก็อาจใช้เครื่องเป่าผมเพื่อช่วยให้สุนัขไม่หนาวมากเกิน ไป ถ้าทำความสะอาดขนของเขาเป็นอย่างดี อาจไม่ต้องอาบน้ำบ่อยก็ได้ ควรถูสบู่เมื่อขนของเขาสกปรกมาก มีกลิ่นตัว หรือมีหมัดเท่านั้น อย่าอาบน้ำให้สุนัขเกินสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพราะถ้าอาบบ่อยเกินไปอาจทำให้ผิวหนังของสุนัขแห้งและคัน ซึ่งจะมีปัญหาโรคผิวหนังตามมา และในขณะอาบน้ำควรระวังอย่าให้น้ำเข้าหูสุนัข ด้วย


หมาบางแก้ว สุนัขพันธุ์บางแก้ว


 โรคและวิธีการป้องกัน
          โรคไข้หัดเป็นโรคที่ติดต่อได้ง่ายใน สุนัข และ สุนัขพันธุ์บางแก้ว ง่ายต่อการเกิดโรคนี้มาก สาเหตของโรคเกิดจากเชื้อไวรัส Canine Distemper virus หรือ CDV RNA Virus Paramyxovirus การติดต่อ สามารถติดต่อทางระบบหายใจ จะติดทางน้ำมูก ขี้ตา น้ำลาย โดยหายใจเข้าไปหรือ หรือจากการสัมผัสอาการของโรค สุนัข จะเสียชีวิตในที่สุด

          ทั้งนี้ โรคไข้หัด มีอยู่หลายชนิดตามอาการ ซึ่งอาการป่วยของ หมาบางแก้ว ที่เป็นไข้หัด จะพบอาการรวมๆ คือ ครั้งแรกจะพบว่ามีไข้ขึ้น อยู่ไม่สุข ไม่กินอาหาร มีน้ำมูกออกมาสีเหมือนน้ำหนอง หรือมีขี้ตาเป็นน้ำหนองสีขาวข้น อุจจาระเหม็นเป็นกลิ่นเฉพาะของโรคนี้เท่านั้น มีอาการชัก โดยแสดงอาการนั่งหรือเดินถอยหลังด้วยอาการน้ำลายฟูมปาก ขากรรไกรล่างเคี้ยวตลอดเวลา หัวสั่น แล้วจะหยุดชักเหมือนสุนัขปกติ แล้วชักอีกอาการชักจะถี่เข้าเรื่อยๆ จนเสียชีวิตในที่สุด แต่กว่าจะเสียชีวิต สุนัขจะทรมานอยู่อย่างนั้น 2-3 อาทิตย์

          สุนัข ที่ป่วยด้วยโรคไข้หัด ประมาณ 90% มักจะเสียชีวิต หากรักษาหาย สุนัขก็เป็นแบบเรื้อรัง จะแสดงอาการทางประสาท เดินโซเซ หรือเดินสั่น แคระแกรน ซึ่งผู้เลี้ยงควรใส่ใจให้วิตามินตามคำแนะนำของแพทย์ และรักษาตามอาการของโรค เช่น ให้น้ำเกลือ ยาระงับชัก แต่สุดท้ายเจ้าหมาน้อยแสนรักก็จะจากไปในที่สุด ดังนั้น การป้องกันโรคไข้หัดที่ดีที่สุด คือ การฉีดวัคซีนให้กับ สุนัข ไว้ตั้งแต่ยังเล็กและฉีดสม่ำเสมอทุกปีเป็นดีที่สุด



ขอขอบคุณข้อมูลจาก
thaibangkaewdog.com
nampingpasusad.co.th
kanchanapisek.or.th

เรื่องราวเกี่ยวกับสุนัขพันธ์ พุดเดิ้ล





{pic-alt} ลักษณะทั่วไป


     พูเดิ้ลที่มีสายพันธุ์ดีจะเป็นสุนัขที่ฉลาดและตอบสนองไวที่สุดในบรรดาสุนัข ทั้งหมด พูเดิ้ลมีด้วยกัน 3 ขนาด คือ ขนาดมาตรฐาน ขนาดเล็ก และขนาดทอย(ตุ๊กตา) พูเดิ้ลทุกขนาดจะเป็นสุนัขที่น่าหยิกน่าหมั่นไส้ แสนประจบ ซน และขี้เล่น พูเดิ้ลพันธุ์เล็กกับพันธุ์ทอยมีอุปนิสัยที่ไม่ค่อยไว้ใจคนแปลกหน้า และมีความอดทนกับเด็กน้อยกว่าพันธุ์สมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม พูเดิ้ลเป็นสุนัขที่ฝึกง่าย สั่งให้ทำอะไรก็ทำ ซึ่งคุณก็ควรฝึกสอนตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วคุณจะเห็นว่ามันมีความสามารถในการทำตามคำสั่งที่ยอดเยี่ยมทีเดียว ข้อเสียของมันก็คือมันมีนิสัยชอบเห่า แต่คงเพราะตัวเล็กไปหน่อยจึงได้แต่เห่าอย่างเดียว ทำอะไรใครไม่ได้ สุนัขพันธุ์นี้เหมาะที่จะเลี้ยงในคอนโด แต่ก็ควรให้ได้รับการออกกำลังกายพอสมควรด้วยแต่ถ้าใครคิดจะเลี้ยงเจ้าพุด เดิ้ลขนาดจิ๋ว (เล็กกว่าพันธุ์ทอย) ก็จงระวังให้ดี เพราะมันค่อนข้างขี้โรคและมีอารมณ์หงุดหงิดง่าย

 

{pic-alt} ความเป็นมา


     พูเดิ้ล มีชีวิตอยู่หลายศตวรรษ และมีเอกสารอ้างอิงมากมายว่าพบในเยอรมนี อังกฤษ อิตาลีและฝรั่งเศสหลักฐานที่พบเป็นภาพสุนัขที่ถูกตัดขนให้ดูคล้ายสิงห์โต โดยส่วนท้ายของลำตัวจะไม่มีขนปกคลุม ยกเว้นบริเวณรอบขาและหางที่มีขนลักษณะพองฟูขณะที่ลำตัวส่วนหน้าเต็มไปด้วยขนที่หนา ยกเว้นบริเวณใบหน้าและขาหน้าซึ่งเป็นการยืนยันว่าในยุคนั้น พูเดิลถูกใช้เพื่อเกมกีฬาเก็บคาบ แต่ก่อนขน พูเดิล จะหนักมากเวลาตัว เปียกต้องคอยตัดออกบ้าง หางยังยาวเป็นพุ่ม มีริบบิ้นผูกไว้ที่ปลายหาง ในขณะปฏิบัติงานเพื่อแยกพูเดิลออกจาก นกหรือสัตว์อื่นๆ

 
{pic-alt}

ลักษณะนิสัยของโกลเดน

โกลเดน

โกลเดน เป็นหมาขนาดกลาง ในกลุ่ม สปอร์ทติ้ง ด๊อก (Sporting Dog) ซึ่งเป็นกลุ่มหมาเพื่อใช้งานในกีฬาล่าสัตว์ กลุ่มเดียวกับ พอยต์เตอร์ (Pointer) เซทเตอร์(Setter) และ สแปเนียล (Spaniel)


โกลเดน รีทริฟเวอร์ ไม่ได้เป็นหมาสำอางที่ต้องการการเสริมแต่งเป็นประจำ ต้องการการดูแลรักษาน้อย เพียงแค่ อาบน้ำและแปรงขนอาทิตย์ละครั้งก็เป็นการเพียงพอแล้ว เป็นหมาที่ออกจะเซอๆ ลุยๆหน่อย มีความเป็นตัวของตัวเองสูง และหล่อสวยแบบเป็นธรรมชาติ ออกจะแข็งแรง มีพลังงานสูง กระปี้กระเปร่า ฉลาดเฉลียวแต่ไม่เจ้าเล่ห์ สุขุม ชอบอยู่ร่วมกับคน รักเจ้าของ และชอบน้ำเป็นพิเศษ เวลาอาบน้ำคือความสุขของทั้งตัวเขาและเจ้าของ บางครั้งจะแอบไปนั่งแช่ในน้ำหรือในที่อื่นๆที่มีน้ำให้ลงไปทั้งตัวได้เช่นในอ่างบัวด้วยบ่อยๆ
โดยสัญชาติญาณแล้วโกลเดนจะชอบการเก็บสิ่งของมาให้ และการว่ายน้ำเป็นสิ่งที่โปรดปรานและเป็นธรรมชาติอย่างยิ่ง
ต้องเข้าใจความเป็นไปก่อนว่าโกลเด้นได้ถูกเพาะพันธุ์มาเพื่อจุดประสงค์ในการใช้งานในเกมการล่าสัตว์ดังนั้นจึงมีคุณลักษณะเฉพาะเช่น-

  • มีลักษณะของหัว ช่วงคอที่ไม่ยาวหรือสั้นเกินไปแต่ใหญ่รับกับกรามที่แข็งเเรง
  • การเรียงของฟันที่มีรูปแบบถูกต้องเป็นระเบียบ เพื่อการคาบเทยื่อที่หนักได้ โดยไม่มีการขย่ำลงไป
  • หูที่ไม่ใหญ่และยาวเกินไปปรกลงมาปิดหูพอดีเพื่อป้องกันรูหูขณะว่ายน้ำและไม่เกะกะขณะวิ่งผ่านป่าละเมาะ
  • มีช่วงไหล่ที่หนาสำหรับการว่ายน้ำที่ดี
  • ขนที่มี 2 ชั้น ที่ชั้นนอกจะหยาบกว่าและค่อนข้างยาวเพื่อป้องกันความหนาวเย็นจากการแช่น้ำและไม่เลอะง่าย เมื่อสะบัดความสกปรกที่ติดอยู่ที่เฉพาะขนชั้นนอกก็จะหลุดออกได้ง่าย
  • เท้าที่เป็นทรงกลมและแข็งแรง สามารถรับน้ำหนักการกระโดดและวิ่งขณะคาบเหยื่ออยู่ได้ดีเป็นตัน

นิสัยของเจ้าโกลเด้น รีทรีฟเวอร์
โกลเด้น รีทรีฟเวอร์เป็นสุนัขที่ชอบอยู่ใกล้ชิดกับคน เมื่อเจอคนแปลกหน้ามันมักจะกระดิกหางวิ่งเข้าไปต้อนรับด้วยท่าทางดีใจราวกับว่าได้พบ เพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันมานาน สุนัขพันธุ์นี้จึงไม่เหมาะอย่างยิ่งที่คุณจะนำมาใช้เฝ้าบ้าน เพราะมันไม่มีลักษณะนิสัยที่ก้าวร้าวต่อคนแปลกหน้า แม้บางครั้งโกลเด้น รีทรีฟเวอร์จะเห่าเสียงดังเมื่อคนแปลกหน้าล่วงล้ำเข้ามาในอาณาเขต แต่ลักษณะการสะบัดหางด้วยท่าทีเป็นมิตร จะทำให้คนแปลกหน้าที่คุ้นเคยกับสุนัข มาก่อนทราบว่ามันเห่าด้วยความดีใจ มากกว่าที่จะเห่าไล่หรือตรงเข้าไปทำร้าย
โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ชอบที่จะเป็นศูนย์กลางการเอาใจใส่จากเจ้าของ บาง ครั้งเมื่อเจ้าของสาละวนอยู่กับแก้วน้ำในมือ เจ้าโกลเด้นอาจจะใช้ปากพลิกแก้วน้ำ ให้น้ำหกรดจมูกของมันเพื่อให้เจ้าของหันมาสนใจที่ตัวมันมากกว่าที่แก้วน้ำ สุนัขพันธุ์นี้มักคิดว่าตัวเองเป็นเพื่อนสนิทของเจ้าของ และคิดว่ามันเป็นมนุษย์คนหนึ่ง เหมือนกัน เห็นได้จากการที่มันมักจะกระโดดขึ้นไปวางท่านั่ง หรือนอนบนเก้าอี้หรือโซฟา ด้วยทีท่าเหมือนกับคน พฤติกรรมเหล่านี้เป็นเสน่ห์พิเศษ ที่ทำให้เจ้าของหลงรัก และมองว่าเป็นความน่ารักเฉพาะตัวของเจ้าโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ ที่ไม่มีสุนัขพันธุ์ไหน ทำได้เหมือน
โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ เป็นสุนัขที่ชอบใช้ชีวิตอย่างสนุกสนาน รักการผจญภัย และมีความอยากรู้อยากเห็นเหมือนเด็กๆ มันชอบกระโดดไปตามที่ต่างๆ ยืดตัวขึ้นสูงเพื่อชะโงกดูว่ามีอะไรอยู่บนเคาน์เตอร์ หรือเดินพิสูจน์กลิ่น ไปตามสุมทุมพุ่มไม้รอบบ้าน และเป็นนักขุดที่ทำให้สนามเป็นหลุมเป็นบ่อไปทั่ว ทั้งนี้ก็เพื่อสนองความอยากรู้อยากเห็นของตัวมันนั่นเอง
โกลเด้น รีทรีฟเวอร์บางตัวมีพฤติกรรมที่คุณอาจจะเห็นว่าแปลกสักหน่อย คืองับแขนเจ้าของแล้วดึงไปข้างหน้า เพื่อพาเจ้าของไปยังที่ต่างๆ ที่มันอยากพาไปเพื่อให้เจ้าของได้มีส่วนร่วมในการผจญภัยของมันด้วย
โกลเด้น รีทรีฟเวอร์เป็นสุนัขที่มีต้นกำเนิดมาเพื่อล่าสัตว์ที่อยู่ริมน้ำ ดังนั้นบุคลิก ที่โดดเด่นอีกอย่างหนึ่งของมันคือชอบลงไปในบริเวณที่มีน้ำขังอยู่ ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ กระถางบัว บ่อปลา หรือแม้แต่ชามใส่น้ำของตัวมันเอง เรามักเห็นโกลเด้นเดินไป เพื่อเอาเท้าข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างวางลงในชามใส่น้ำพร้อมกับเลียน้ำขึ้นดื่ม และเมื่อเจ้าของดุเมื่อมันทำให้พื้นบ้านเปียกแฉะไปด้วยน้ำ มันก็มักจะทำทีท่าเหมือน กับว่าได้รับชัยชนะในการเล่นซน และไม่มีความรู้สึกผิดใดๆ ที่ได้ทำอย่างนั้น ในกรณีที่พื้นบ้านของคุณไม่เหมาะกับการเปียกน้ำตลอดวัน ขอแนะนำให้วางชามใส่น้ำไว้บนขาตั้งที่มันไม่สามารถแหย่เท้าลงไปได้ และควรมีกาละมังใส่น้ำไว้เมื่อคุณพร้อมที่จะอนุญาตให้เจ้าโกลเด้นเล่นน้ำตาม สัญชาติญาณที่มีมาตั้งแต่เกิด
ด้วยลักษณะนิสัยและความต้องการเช่นนี้ของโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ สุนัขพันธุ์นี้ จึงไม่เหมาะอย่างยิ่งที่จะอาศัยอยู่ในเมืองที่ไม่มีสนามหรือบ่อน้ำที่จะให้พวกมัน ออกกำลังกายได้
สิ่งที่โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ต้องการ
ถ้าจะถามว่าโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ต้องการอะไรจากเจ้าของบ้าง คำตอบแรกก็คือความใส่ใจ เพราะเจ้าโกลเด้นเป็นสุนัขที่ต้องการความใส่ใจเป็นพิเศษจนถึงขนาดเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต เจ้าของเลยทีเดียว แน่นอนว่าพวกมัน ต้องการที่จะออกไปวิ่งเล่นในสวนรอบๆ บ้าน แต่มันก็ต้องการให้เจ้าของออกไปเล่นกับมันด้วย และหากคุณเคยออกไปใช้ชีวิต กลางแจ้งร่วมกับมันละก็ เชื่อได้เลยว่ามันกำลัง เฝ้ารอการได้ออกไปใช้ชีวิต กลางแจ้งร่วมกันคุณอีกครั้ง

การเกาคางหรือลูบหลังลูบไหล่ เป็นสิ่งที่โกลเด้นต้องการเป็นลำดับถัดมา เพราะนั่นเป็นการสื่อภาษาทางร่างกายว่าคุณรักและเอาใจใส่พวกมันอยู่เสมอ และจะยิ่งทำให้พวกมันรักและบูชาคุณมากยิ่งขึ้น

การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ต้องการอย่างสม่ำเสมอ วิธีการออกกำลังที่เหมาะสมก็คือการพาเดิน การปล่อยให้วิ่ง หรือการโยนสิ่งของออกไปไกลๆ เพื่อให้ไปคาบกลับมา รวมทั้งการว่ายน้ำในกรณีที่มีแอ่งน้ำที่สะอาดและปลอดภัยด้วย (บางบ้านปล่อยให้ลงไปในสระว่ายน้ำด้วยค่ะ)

อาหารที่โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ขนาดโตเต็มวัยต้องการควรเป็นอาหาร ในระดับซุปเปอร์พรีเมี่ยมโดยให้เพียงวันละ 1 ครั้งในปริมาณที่เพียงพอ และในระหว่างวันอาจให้บิสกิตเสริมได้วันละ 2 ครั้ง

บริเวณสำหรับนอนเป็นอีกส่วนหนึ่งที่โกลเด้นต้องการ ผ้าปูรองนอนนุ่มๆ หาของเล่นส่วนตัวสักชิ้นสองชิ้นที่มันสามารถกัดแทะได้ เช่น กระดูกเทียม หรือลูกบอลยางวางไว้รอบตัวให้มันด้วย จะช่วยให้โกลเด้นมีที่สงบและปลอดภัยสำหรับ ช่วงเวลาที่พวกมันต้องการความเป็นส่วนตัวและต้องการพักผ่อน

สิ่งสุดท้ายที่เจ้าของสามารถตอบสนองความต้องการให้แก่โกลเด้นได้ก็คือการพาเจ้า โกลเด้นไปพบสัตวแพทย์เป็นประจำเพื่อฉีดวัคซีนที่จำเป็น รวมทั้งเช็คร่างกาย ว่าปราศจากพยาธิ และโรคภัยต่างๆ

นอกจากนี้ เจ้าของยังสามารถช่วยดูแลเรื่องความสะอาดภายในใบหู ดูแลเรื่องเห็บและหมัด รวมทั้งตัดเล็บให้มันอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้วิ่งและกระโดดง่ายขึ้น หากคุณสามารถดูแลในสิ่งพื้นฐานที่โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ต้องการจากคุณได้แล้ว คุณอาจประหลาดใจก็ได้ว่า เจ้าสิ่งมีชีวิตตัวนี้สามารถสร้างความรัก ความผูกพันและความประทับใจให้กับคุณได้อย่างคาดไม่ถึงทีเดียว

อ้างอิง : http://www.mylovegolden.com/2/

หลากหลายเรื่องราวเกี่ยวกับสนัขพันธ์ ซิสุ

Dogilike.com :: หลากเรื่องราวของน้องหมาชิสุ ที่หลายคนอาจยังไม่รู้

 
     บทความเรื่องน่ารู้น้องหมาชิสุครั้งที่ผ่านมา พริกได้เขียนเกี่ยวกับเรื่องราวดีๆ น่ารักน่าเลี้ยงของน้องหมาชิสุไปแล้ว แต่เพื่อนๆ ทราบไหมคะว่า เรื่องราวของสายพันธุ์เก่าอย่างพวกเขาไม่ได้มีเพียงเท่านั้นะคะ แต่ยังมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่น่ารู้อีกมากมายไม่ว่าจะเรื่องความเป็นมา เรื่องต้นกำเนิดสายพันธุ์ ตำนาน เรื่องพฤติกรรม และ เรื่องสุขภาพอีกด้วยค่ะ มาดูกันค่ะว่า มีเรื่องอะไรเกี่ยวกับเจ้าชิสุบ้างที่เราอาจจะยังไม่รู้ เพื่อที่เราจะได้เข้าใจโลกใบน้อยของพวกเขามากขึ้นยังไงล่ะคะ ^^
  


 

1. รู้หรือไม่ ... ชิสุ เกิดจากการการผสมข้ามสายพันธุ์


 
Dogilike.com :: หลากเรื่องราวของน้องหมาชิสุ ที่หลายคนอาจยังไม่รู้
 
 
     สายพันธุ์ชิสุเป็นหนึ่งน้องหมาของจีนแผ่นดินใหญ่ที่มีอยู่มายาวนานมากที่สุดสายพันธุ์หนึ่งค่ะ แต่ก็ยังถือว่ามีอายุน้อยกว่าอีก 2 สายพันธุ์ที่เป็นต้นกำเนิดของสายพันธุ์ชิสุ นั่นก็คือ สายพันธุ์ลาซา แอปโซ (Lhasa  Apso) น้องหมาจากดินแดนศักด์สิทธิ์ทิเบต และสายพันธุ์ปักกิ่ง  (Pekingese)  น้องหมาประจำพระราชวังต้องห้าม ซึ่งการผสม 2 สายพันธุ์นี้ถือเป็นการรังสรรค์ที่ลงตัว ให้ได้น้องหมาที่มีขนยาวสวยงามอย่างลาซา แอปโซ แต่พันธุ์นี้ออกจะดุและไม่ค่อยจะเป็นมิตรกับคนแปลกหน้า การผสมกับน้องหมาช่างประจบเอาใจอย่างปักกิ่งก็ช่วยให้ความดุ ความขี้หงุดหงิดของชิสุน้อยลงมาได้บ้าง แต่นิสัยดุนี้ก็ยังมีแฝงติดมากับน้องหมาชิสุอยู่ (ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูของแต่ละครอบครัวด้วยนะคะ) อย่างไรก็ตาม ยีนที่น้องหมาชิสุได้รับจากน้องหมาปักกิ่งอย่างเช่น ลักษระลูกตาที่โปนโต หน้าหนักงอ ก็สามารถทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้ในเวลาต่อมาได้เช่นกันค่ะ (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพน้องหมาชิสุได้ที่บทความ 5 ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในสุนัขสายพันธุ์ชิสุ ค่ะ)
 
 

 

2. รู้หรือไม่ ... ชิสุ มีฉายานามมากที่สุดสายพันธุ์หนึ่ง


 
Dogilike.com :: หลากเรื่องราวของน้องหมาชิสุ ที่หลายคนอาจยังไม่รู้

 
     ตั้งแต่น้องหมาสายพันธุ์ชิสุถือกำเนิดมา พวกเขามีชื่อเรียกมากมายหลายชื่อ ตามแต่ละช่วงเวลา และตามแต่ละพื้นที่ค่ะ เริ่มจากชื่อ "ชิสุ" ซึ่งในภาษาจีนมีความหมายว่า สุนัขสิงโต เช่นเดียวกับน้องหมาปักกิ่ง เพราะมีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับรูปปั้นสิงโตที่อยู่ตามหน้าประตูพระราชวังที่เราเคยเห็นกันมา  ซึ่งคำว่า สุนัขสิงโต นี้ก็ได้กลายมาเป็นหนึ่งในฉายาของน้องหมาชิสุค่ะ บางชื่อก็มีการต่อท้ายด้วยถิ่นกำเนิดของน้องหมาชิสุลงไปด้วยว่า “สุนัขสิงโตแห่งทิเบต” 
 
     นอกจากนี้ น้องหมาชิสุยังเป็นที่รู้จักในชื่อ “ซี ซือ ชวน” (Xi Shi quan หรือXi Shi dog)  ซึ่ง ซี ซือ เป็นชื่อของหญิงสาวที่งามมากที่สุดของยุคจีนโบราณค่ะ ข้ามจากเอเชียไปยังยุโรปทวีป ที่ประเทศอังกฤษช่วงปีค.ศ. 1930 ได้ตั้งชื่อเล่นให้แก่น้องหมาชิสุว่า “สุนัขเบญจมาศ”(Chrysanthemum Dog) เนื่องจากดอกเบญจมาศเป็นดอกไม้ที่เบ่งบานงามสง่าและมีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน และมีอีกเหตุผลที่แฝงอยู่ แต่จะเหตุผลอะไร ต้องตามไล่อ่านข้อต่อๆ ไปนะคะ   



 

3. รู้หรือไม่ ... ชิสุ เป็นหนึ่งในน้องหมาที่จักรพรรดิจีนโปรดปราน

 
 
Dogilike.com :: หลากเรื่องราวของน้องหมาชิสุ ที่หลายคนอาจยังไม่รู้

 
      ตามความเชื่อของพระพุทธศาสนาในทิเบต สิงโตถือว่าเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ สืบเนื่องมาจากความเชื่อต่างๆ เช่นว่าเหล่าทวยเทพหรือวิญญาณของพระลามะที่ยังไม่ไปสู่นิพพานจะกลับมาเกิดเป็นสิงโต และในบางตำนานได้มีการกล่าวไว้ว่าพระพุทธเจ้าตรัสว่าจะกลับชาติยังโลกอีกครั้งบนหลังสิงโต เป็นต้นค่ะ อีกทั้งในทางศิลปวัฒนธรรมจีนสิงโตยังเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญ เกียรติยศ ศักดิ์ศรี และความมั่งคั่งของอำนาจ  จึงปรากฏรูปปั้นสิงโตในพระราชวังต้องห้ามอยู่เป็นจำนวนมาก การที่น้องหมาชิสุมีลักษณะใบหน้าคล้ายกับสิงโตจึงกลายมาเป็นของบรรณาการอันทรงคุณค่าที่มอบให้แก่จักรพรรดิจีน  และเป็นที่ชื่นชอบของบรรดาหญิงสาวชนชั้นสูงในพระราชวัง ซึ่งน้องหมาที่มีถือว่าเป็นน้องว่าในราชสำนักนอกจากชิสุแล้ว ยังมีน้องหมาปั๊ก และ ปักกิ่ง ร่วมอยู่ด้วยค่ะ ... น่าแปลกนะคะว่าทำไมน้องหมาของจักรพรรดิ ถึงหน้าหักทั้ง 3 สายพันธุ์เลย  ^0^ 
  
 

 

4. รู้หรือไม่ ... ชิสุ คือ น้องหมากระเป๋าน้ำร้อนมีชีวิต

 
 
Dogilike.com :: หลากเรื่องราวของน้องหมาชิสุ ที่หลายคนอาจยังไม่รู้

 
     จากข้อมูลความเป็นมาของน้องหมาชิสุ มีการกล่าวถึงการนำน้องหมาชิสุมาเป็นกระเป๋าน้ำร้อนช่วยคลายหนาวให้แก่ชนชั้นสูงในพระราชวัง ไม่ว่าจะให้น้องหมานั่งที่ตัก (ซึ่งน้องชิสุโปรดปรานการนอนตักมากๆ เป็นที่ประจำของเขาเลยก็ว่าได้ค่ะ) หรือให้น้องหมาเข้าไปซุกในแขนเสื้อของหญิงสาวในชั้นสูง หากสังเกตในหนังจีนย้อนยุคจะเห็นว่าพวกเขามักจะนั่งหรือยืนเอามือประสานกัน ในแขนเสื้อนั้นแหละค่ะ จะมีน้องหมาชุสิตัวเล็กๆ อิงแอบให้ความอบอุ่นอยู่ข้างในค่ะ ส่วนในยามค่ำคืนน้องหมาชิสุก็ได้สิทธิพิเศษนอนอยู่ปลายเตียงของจักรพรรดิและเหล่าเจ้านายชั้นสูง เพื่อมอบความอบอุ่นให้แก่เจ้านายสุดที่รัก  เห็นไหมคะว่าน้องหมาชิสุผูกพันกับผู้เลี้ยงมากขนาดไหน ถ้าพวกเขายอมรับใครเป็นนายแล้วล่ะก็ รักไม่มีห่างเลยค่ะ ^^



 

5. รู้หรือไม่ ... ชิสุ คือ เพื่อนคู่ซี้ แฝดคนละฝา  

 


Dogilike.com :: หลากเรื่องราวของน้องหมาชิสุ ที่หลายคนอาจยังไม่รู้

 
     เสน่ห์ของน้องหมาชิสุที่ใครเห็นก็ต่างตกหลุมรัก ก็คือความบ๊องแบ๊ว ขี้ประจบ ติดเจ้าของแจ ถึงจะเป็นน้องหมาอารมณ์ศิลปิน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย แต่สำหรับหัวใจดวงน้อยของพวกเขาแล้ว พวกเขาต้องการอยู่ติดกับเจ้าของ แทบจะเรียกได้ว่าเป็นคนคนเดียวกันเลยล่ะค่ะ ไม่ว่าเราจะไปไหนเขาก็พร้อมจะติดตามไปไม่ซน ไม่งอแง ถ้าเราทำความสะอาดตู้เย็น เขาก็นั่งอยู่ข้างๆ ถ้าเราดูโทรทัศน์เขาก็จะนั่งดูกับเรา ถ้าเราเหนื่อย เขาก็จะงีบหลับพักกายไปพร้อมกับเรา อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ยังคงเป็นน้องหมาตามใจตัวเอง ตราบใดที่พวกเขาไม่ได้มีอารมณ์ประจบ เขาก็จะทำมึนใส่เราเลยค่ะ สั่งอะไรก็จะไม่ทำ ข้อดีในส่วนนี้คือ พวกเขาจะไม่ค่อยมีปัญหาการถูกปล่อยทิ้งให้อยู่ลำพัง เพียงมีของเล่นทิ้งไว้ให้พวกเขา และมอบความรักให้เมื่อเรากลับถึงบ้าน ก็เพียงพอสำหรับน้องหมาชิสุแล้วล่ะค่ะ  
 


 

6. รู้หรือไม่ ... ถึงน้องหมาชิสุจะน่ารัก แต่ก็โหดได้เหมือนกัน!

 
 
Dogilike.com :: หลากเรื่องราวของน้องหมาชิสุ ที่หลายคนอาจยังไม่รู้

 
     ขึ้นชื่อลือชามากๆ กับพฤติกรรมไว้ตัว ขี้เหวี่ยง ไม่ไว้ใจคนแปลกหน้า พร้อมจะแว้งกัดได้ในทันที แต่จะบอกว่าน้องหมาชิสุ “ดุ” ก็คงไม่ได้ เพราะน้องหมาชิสุไม่ใช่น้องหมานักเลง ประเภทวิ่งไล่เห่าไล่กัด ยืนดักอยู่หน้าปากซอย หากเป็นน้องหมาที่ชอบอยู่เงียบๆ นิ่งๆ ไม่ชอบให้ใครมารบกวนชั่วโมงทำสมาธิของพวกเขา ยิ่งถ้าเป็นคนแปลกหน้ายื่นหน้าทักทาย ส่งเสียงสูง เอื้อมมือมาถูกเนื้อต้องตัวล่ะก็ น้องหมาชิสุจะหันควับ แยกเขี้ยวขู่ในลำคอทันที ถ้าโชคร้ายก็จะมีรอยเขี้ยวข่วนเป็นรอยแปลกฝากไว้ เผื่อคิดถึง ด้วยเหตุนี้เอง การพาน้องหมาชิสุออกสังคมจึงจำเป็นมากๆ เพื่อให้พวกเขาคุ้นชิน และเปิดใจรับคนแปลกหน้าเข้ามาในชีวิตบ้างค่ะ  (อ่านเพิ่มเติม บทความ ไขปัญหาคาใจ...นิสัยไว้ตัวของน้องหมาชิสุ ค่ะ)



 

7. รู้หรือไม่ ... ชิสุ น้องหมาขนดอกเบญมาศ

 

Dogilike.com :: หลากเรื่องราวของน้องหมาชิสุ ที่หลายคนอาจยังไม่รู้
 
 
      น้องหมาชิสุเป็นน้องหมาขนยาวตรงสลวยราวแพรไหม เรียกได้ว่าขนยาวเท่ากับทั้งตัวไม่ว่าจะขนบริเวณเหนือดวงตา ขนรอบปาก ขนที่ตัว เช่นเดียวกับผมของคน มีการต้องตัดแต่งทรงขน เกล้าเป็นมวยจุกติดโบว์สวยงาม โดยขนบริเวณใบหน้าที่ยาวขึ้นมานั้นล้วนมียาวขึ้นมาจากบริเวณรจมูกและ กลางใบหน้าแผ่ออกเป็นพุ่มเส้นขนสยายทั่วทุกทิศทาง ขนกลายเป็นที่มาของฉายา “สุนัขเบญจมาศ” (Chrysanthemum Dog)  ซึ่งเปรียบได้กับกลีบดอกเบญจมาศที่ผลิบานจากเกสรแกนกลางดอก นั่นเองค่ะ
 


 

8. รู้หรือไม่ ... ชิสุ น้องหมาตาหลุดได้

 
 
Dogilike.com :: หลากเรื่องราวของน้องหมาชิสุ ที่หลายคนอาจยังไม่รู้

 
     ใครที่คิดว่าเรื่องลูกตาหลุดออกมาจากเบ้า แล้วใส่กลับเข้าไปได้อีกนั้นจะมีเฉพาะในหนังหรือการ์ตูน อาจจะต้องลองมาเลี้ยงเหล่าน้องหมาตาโตโปน เบ้าตาตื้นอย่างน้องหมาชิสุดูสักครั้งค่ะ โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะลูกตาหลุดมักเกิดจากการได้รับการกระทบกระเทือนอย่างแรงที่บริเวณเบ้าตา ทำให้ลูกตาหลุดออกมา แต่ก็ยังมีเส้นเลือดและเส้นประสาทติดห้อยอยู่กับดวงตานะคะ ไม่ใช่ว่าจะกลุดออกมากลมๆ เป็นลูกปิงปอง ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวผู้เลี้ยงควรปฐมพยาบาลเบื้องต้นโดยการสร้างความชุ่มชื้นให้ดวงตาน้องหมา เช่น  ราดน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ หรือ ทำความสะอาดด้วยน้ำเกลือ NSS  จากนั้นห่อดวงตาด้วยผ้าชุ่มน้ำเย็น แล้วรีบพาไปพบสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุดค่ะ ไม่ควรดันลูกตาน้องหมากลับเข้าไปด้วยตนเองนะคะ ถึงจะหลุดได้เหมือนในการ์ตูนแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าอยู่ดีๆ เจ้าของจะยัดลูกตากลับเข้าไปที่เดิมได้เองนะคะ!!!
 


 

9. รู้หรือไม่ ... ชิสุ สายพันธุ์น้องหมาขนตายาว 

 
 
Dogilike.com :: หลากเรื่องราวของน้องหมาชิสุ ที่หลายคนอาจยังไม่รู้

 
     สถิติน้องหมาที่ขนตายาวมากที่สุดในโลกที่ได้ลงกินเนสบุ๊คอยู่ที่ 13.6 เซนติเมตร เป็นสายพันธุ์คือน้องหมาลาซา แอปโซ ซึ่งคือหนึ่งในบรรพบุรุษของน้องหมาชิสุ จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเห็นน้องหมาชิสุมีขนตายาวราวกับปัดมาสคาร่าแบบถาวร ยิ่งถ้าปล่อยขนยาวก็จะสามารถมัดจุกผูกโบว์ สวยเช้งได้เลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม การที่พวกเขามีขนตายาวก็ไม่ใช่ว่าจะดีเสมอไปนะคะ บ่อยครั้งที่ขนตาพับหรือทิ่มเข้าไปในดวงตาจนทำให้เกิดอาการอักเสบและทำให้เกิดปัญหาดวงตาต่างๆ ในเวลาต่อมาค่ะ ผู้เลี้ยงควรสังเกตว่ามีขนทิ่มเข้าไปในดวงตาพวกเขาหรือไม่ ถ้าน้องหมามีอาการระคายเคืองตา ควรพาไปพบสัตวแพทย์นะคะ หรือจะพาเข้าร้านตัดแต่งทรงขนแล้วตัดเล็มขนตาให้สั้นลงก็สามารถทำได้ค่ะ   



 

10. รู้หรือไม่ ... ชิสุเป็นน้องหมาติดบ้าน 

 
 
Dogilike.com :: หลากเรื่องราวของน้องหมาชิสุ ที่หลายคนอาจยังไม่รู้

 
     น้องหมาพันธุ์ชิสุเป็นน้องหมาที่สามารถอยู่ได้ดีทั้งในอพาร์ตเม้นท์หรือบ้านใหญ่ๆ มีอาณาเขต แต่ไม่ว่าบริเวณบ้านจะกว้างใหญ่ขนาดไหน น้อหมาชิสุก็ไม่เหมาะจะถูกปล่อยทิ้งให้อาศัยอยู่นอกบ้าน หรือแม้แต่การแยกอยู่ระหว่างหมากับคนนะคะ เพราะธรรมชาติของพวกเขาแล้วชอบที่จะอยู่เคียงข้างกับเจ้าของและครอบครัวในบ้านที่อบอุ่นปลอดภัย การปล่อยให้เขาอยู่นอกบ้าน นอกจากจะทำให้พวกเขารู้สึกไม่มั่นคงทางอารมณ์ หดหู่ เปลี่ยวเหงา แล้ว ร่างพวกเขายังทนต่อความร้อนได้ไม่มาก เนื่องจากขนยาว และผิวหนังเปราะบางอาจทำให้ผิวไหม้ เสี่ยงต่อการเป็นโรคผิวหนังอักเสบ และอาการฮีทสโตรกได้ ... อันที่จริงแล้วสำหรับน้องหมาชิสุ ถึงแม้ไม่มีพระราชวังให้อยู่ ... ขอให้อิงอาศัยบ้านเท่ารูหนู น้องชิสุก็ยินยอมค่ะ  
 
 
Dogilike.com :: หลากเรื่องราวของน้องหมาชิสุ ที่หลายคนอาจยังไม่รู้

 
     น้องหมาชิสุที่เราคุ้นหน้า ไม่ธรรมดาเลยใช่ไหมคะ พวกเขาสามารถสร้างความประหลาดใจให้เราได้เสมอๆ เดี๋ยวก็ทำนอนนิ่งๆ เดี๋ยวกระโดดชวนเล่น เดี๋ยวก็แว้งกัด เอาใจยากสักหน่อย แต่ใครเลี้ยงแล้วต่างก็ติดใจเลี้ยงต่อไปๆ ไปหลายๆ รุ่น จนตอนนี้เจ้าชิสุได้กลายเป็นหนึ่งในสายพันธุ์น้องหมาที่เก่าแก่ของโลก ถ้าเพื่อนๆ คนไหนอยากรู้เรื่องราวดีๆ น่าเอ็นดูของน้องหมาชิสุสามารถเข้าไปติดตามอ่านต่อได้ที่บทความ10 เหตุผลคนไทยยังนิยมเลี้ยงน้องหมาชิสุนะคะ แล้วจะยิ่งหลงรักแบบรั้งไม่อยู่เลยล่ะค่า >///<
 



 
บทความโดย : Dogilike.com

 
ข้อมูลอ้างอิง :
 
http://animal.discovery.com/tv-shows/dogs-101/videos/shih-tzu.htm
http://animal.discovery.com/breed-selector/dog-breeds/toy/shih-tzu.html
http://www.dogbreedinfo.com/shihtzu.htm
http://companionpetskenya.wordpress.com/2012/08/07/shih-tzu-2/

 
ภาพประกอบ :
 
www.city-data.com
www.dailypuppy.com
www.imperialshihtzu.com
www.justanswer.com
http://animal.discovery.com/tv-shows/dogs-101/videos/shih-tzu.htm
www.sameshihtzudifferentday.com 
shihtzuchattertwo.sunlitesplace.com